- การตลาดออนไลน์
- การทำการตลาดให้กับเว็บไซต์
- บริการด้านเครือข่ายสังคมออนไลน์
- บริการให้คำปรึกษา
- บริการออกแบบเว็บไซต์
- บริการพัฒนาเว็บไซต์
- บริการซ่อมบำรุงเว็บไซต์
- บริการออกแบบกราฟิก
- บริการออกแบบกราฟิก
- บริการให้คำปรึกษา
- Blockchain
- ติดต่อเราเลยตอนนี้
เจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดด้วยการทำโฆษณาบนเสิร์ชเอนจินอันดับ 1 อย่าง Google
Google Adwords หรือชื่อใหม่ Google Ads คือแพลตฟอร์มสำหรับการทำโฆษณาออนไลน์ (Online Advertising) ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ซึ่งโฆษณาจะปรากฏบนหน้าผลการค้นหา (Search Result Page) ของ Google เมื่อมีการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดที่ตรงกับในแคมเปญ และยังไปปรากฎบนเว็บไซต์ที่เป็นเครือข่ายของทาง Google อีกด้วย
ทีม Digital Marketing ของเราจะเริ่มต้นการทำโฆษณาออนไลน์บน Google ด้วยการวางแผนและกำหนดขอบเขตของแคมเปญ Pay-Per-Click (PPC) หรือ GDN (Google Display Network) ไม่ว่าจะเป็นการทำความเข้าใจตัวสินค้าหรือบริการ, กำหนดกลุ่มเป้าหมาย, วางโครงสร้างแคมเปญ และตั้งงบประมาณ
กลยุทธ์ในการทำโฆษณาออนไลน์ของเรานั้นจะใช้วิธีการที่เรียกว่า Tried-and-Tested คือการสร้างแคมเปญขึ้นมาตามโครงสร้างที่กำหนดไว้ เจาะจงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม (เพศ, อายุ, พื้นที่ ฯลฯ) ใส่คีย์เวิร์ดแบบกว้างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ แล้วปล่อยโฆษณาเข้าไปใน Google ในขณะที่แคมเปญกำลังแสดงอยู่ใน Google ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราก็จะทำการเช็คและวิเคราะห์การทำงานของแคมเปญ และดึงเอากลยุทธ์การทำ SEO เข้ามาช่วยโดยการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่ถูกค้นหามากและคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งใช้
เมื่อได้คีย์เวิร์ดที่สำคัญแล้วเราก็จะนำมาเพิ่มเติมลงไปในแคมเปญ เพื่อให้ตัวโฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้นและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
การทำโฆษณาออนไลน์ผ่าน Google Ads จะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าการทำ SEO เราจึงไม่สามารถเน้นการนำเสนอคอนเทนต์ที่โดดเด่นได้เพียงอย่างเดียว แคมเปญโฆษณาแต่ละแคมเปญต้องผ่านการคิด วิเคราะห์ วางแผน และการบริหารจัดการงบประมาณที่ดี เพื่อนำธุรกิจไปสู่ผลลัพธ์ที่จับต้องได้ และวัดผลได้จริง
การรู้เป้าหมายจะช่วยให้วางแผนกลยุทธ์และเห็นภาพรวมทั้งหมดได้ชัดเจนขึ้น เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อตัดสินใจเริ่มทำแคมเปญผ่าน Google Ads คือตีโจทย์แคมเปญให้แตก และรู้ว่าเป้าหมายของแคมเปญคืออะไร ก็จะทำให้เลือกใช้ประเภทของโฆษณาได้ตรงตามเป้าหมายของแคมเปญ เป้าหมายของธุรกิจไม่ได้มาจากส่วนเดียวในองค์กร แต่ละแผนกต่างมีเป้าหมายที่ต้องการทำให้สำเร็จ เช่น ฝ่ายขายที่ต้องการเพิ่ม Conversions และยอดขาย ซึ่งโฆษณาประเภท Search Ads หรือ Display Ads ที่มีฟังก์ชั่นที่สามารถเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายมาเป็นลูกค้า โดยการกำหนดพื้นที่ให้โฆษณาไปปรากฎตามเว็บไซต์ วิดีโอ หรือแอปพลิเคชั่นพาร์ทเนอร์ของ Google โดยตรงก็จะสามารถตอบโจทย์เป้าหมายของฝ่ายขายได้ หรือแม้แต่ฝ่ายที่ดูแลสินค้าของธุรกิจ E-commerce ที่ต้องการนำเสนอสินค้าให้ลูกค้าโดยตรงบนหน้า Search Result ก็สามารถใช้ Google Ads ประเภท Shopping Ads ในการโชว์สินค้าจากเว็บไซต์ได้เช่นกัน
เมื่อตอบโจทย์เป้าหมายได้แล้วสิ่งต่อมาคือเรื่องการจัดสรรงบประมาณสำหรับทำโฆษณาผ่าน Google Ads วิธีจัดสรรงบให้ได้ผลดีที่สุดและคุ้มค่าทึ่สุด จะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์การเลือก Bid Strategy ซึ้งจะดูจากผลลัพธ์ที่ลูกค้าต้องการจากการทำโฆษณา เช่น ลูกค้าต้องการ Conversions ทางเราก็จะเสนอกลยุทธ์แบบ AdWords Smart Bidding ที่จะช่วยจัดการงบโดยอัตโนมัติ ลูกค้าบางรายต้องการเพิ่มยอดเข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) หรือยอด Clicks การจัดการงบแบบ Cost-Per-Click หรือการเสียเงินตามจำนวนคลิกโดยสามารถเลือกการจัดการงบแบบอัตโนมัติ (Maximize Clicks) หรือปรับงบตามความเหมาะสมด้วยตัวเอง (Manual Clicks)
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่เราไม่มองข้ามคือการติดตามผลโฆษณาการทำแคมเปญออนไลน์ ทีม Digital Marketing จะปรับแผนกลยุทธ์การตลาดและการทำโฆษณา โดยดูจากผลลัพธ์ที่ได้ในการทำโฆษณาแต่ละครั้ง เพื่อนำผลลัพธ์เหล่านั้นมาวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย หรือหาจุดบกพร่องของแคมเปญ และปรับปรุงในการทำโฆษณาแต่ละแคมเปญครั้งต่อๆ ไปให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
หน้าที่ของ Digital Marketing Agency ทำโฆษณาอีกอย่างหนึ่งคือการติดตามผลและรายงานผลให้ลูกค้าทราบเป็นระยะ เราให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของแคมเปญโฆษณาเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้ทางเราและลูกค้าเข้าใจความต้องการในตลาดมากขึ้น และที่สำคัญจะทำให้เราปรับปรุงการทำโฆษณาได้ดียิ่งขึ้น
การที่จะทำให้แคมเปญโฆษณามีคุณภาพหรือสมบูรณ์ได้นั้น ต้องสามารถวิเคราะห์ผลและนำจุดบกพร่องมาแก้ไขได้ เราต้องย้อนกลับมาดูหลายๆ ปัจจัยว่ามีส่วนใดที่เราต้องปรับปรุงบ้าง เช่น ความชัดเจนของตัวโฆษณา ที่จะต้องตรงไปตรงมา กระชับ ใจความครบถ้วน และเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่กลุ่มเป้าหมายค้นหา ผู้ที่เห็นโฆษณาจะต้องเข้าใจว่าสินค้าหรือบริการคืออะไร อีกสิ่งหนึ่งคือเนื้อความที่ใช้ในโฆษณาต้องถูกต้องตามหลักการใช้ภาษาทั้งการสะกดคำและไวยากรณ์ การเว้นวรรคคำหรือข้อความตามความเหมาะสม เป็นต้น
ในระหว่างที่ดำเนินการทางทีม Upmedio ก็จะรวบรวมผลการทำงาน, สถิติต่างๆ รวมถึงข้อเสนอแนะ เพื่อรายงานให้ลูกค้าได้ทราบและหารือที่จะพัฒนาการทำโฆษณาในครั้งต่อไป
PPC (Pay Per Click) คือการโฆษณาบนหน้าแสดงผลการค้นหา (Search Result Page) อีกรูปแบบหนึ่ง ที่จะมีการประมูลคีย์เวิร์ดเพื่อให้โฆษณาไปปรากฎอยู่เมื่อมีการค้นหาในเสิร์ชเอนจิน โดยตำแหน่งของโฆษณาจะถูกกำหนดโดยค่าประมูลที่เรียกว่า CPC (Cost Per Click) ซึ่งค่า CPC ของแต่ละคีย์เวิร์ดนั้นมีราคาไม่เท่ากัน ยิ่งคีย์เวิร์ดที่มีคนค้นหามาก มีคู่แข่งมาก CPC ก็จะสูงขึ้น ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับการจัดการบริหาร PPC ไม่แพ้การทำ SEO
ในการจัดการ PPC ต้องมีความเข้าใจตัวเครื่องมือและกลยุทธ์ที่สามารถทำบนแพลตฟอร์มนั้นๆ ได้ อย่างการจัดการ PPC ของ Google Ads ก็จะเริ่มจากการกำหนดขอบเขตแคมเปญ, วิเคราะห์เว็บไซต์, ประเมินการจัดการงบ และหาปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้แคมเปญมีปัญหา ที่ Upmedio เราใส่ใจถึงรายละเอียดในขั้นตอนต่างๆ ของการทำโฆษณา และไม่มองข้ามปัญหาเล็กๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินงาน เพื่อผลประยชน์สูงสุดในการทำธุรกิจของลูกค้า