เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและนำเสนอแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้ดียิ่งขึ้นด้วยบริการ Facebook Marketing ที่จะทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นด้วยกลยุทธ์การทำแคมเปญบน Facebook อย่างมืออาชีพ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่องทางการทำ Online Marketing นั้นมีเพิ่มขึ้นมาจากเมื่อก่อนเป็นอย่างมากและแต่ละแพลตฟอร์มก็มีเครื่องมือทำการตลาดและลูกเล่นต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน อีกหนึ่งช่องทางที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยคือการทำการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หรือ Social Media Marketing นั่นเอง ซึ่งหากจะให้เรียงลำดับความนิยมของโซเชียลมีเดียนั้น Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมจากนักการตลาดในหลากหลายธุรกิจไม่น้อยเลยทีเดียว
การทำ Facebook Marketing สามารถทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นและยังช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายขึ้นอีกด้วย แต่การสร้างเพจให้กับแบรนด์และการสร้างแคมเปญโฆษณาเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้านั้นต้องอาศัยเทคนิคและการเขียนคอนเทนต์ที่ต้องดึงความสนใจและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับกลุ่มเป้าหมายเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าของคุณ การทำ Facebook Marketing ให้เป็นไปตามจุดประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงของแบรนด์จะทำให้เกิดเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและตัวตนที่ชัดเจนให้กับเพจธุรกิจของคุณ รวมทั้งช่วยให้คุณสามารถสร้างสัมพันธ์ภาพและการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้งานเฟสบุ๊คอีกด้วย การเชื่อมต่อกับผู้เข้าชมที่ทั่วถึงผ่านการตื่นตัวทาง Social Media อย่างกว้างขวางจะนำไปสู่ผลลัพธ์ทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จสูง
การมี Content Marketing ที่เป็นไปตามจุดประสงค์ที่แบรนด์ตั้งไว้สามารถสร้างเอกลักษณ์และความโดดเด่นให้กับเพจของคุณได้ ซึ่งเป็นสื่อกลางที่ดีสำหรับเชื่อมต่อแบรนด์กับผู้ชม ที่ UpMedio เราทำการทดสอบและสืบค้นวิธีการที่ดีที่สุดในการเชื่อมต่อแบรนด์ของคุณเข้ากับผู้ชมและกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ เราสามารถเข้าถึงลูกค้าผ่านความสนใจพิเศษ กลุ่มอุตสาหกรรม สถิติประชากรและองค์ความรู้อื่น ๆ อีกมากมายตามฐานข้อมูลที่เข้าถึงได้
ความสม่ำเสมอและความต่อเนื่องในการอัพโหลดคอนเทนต์เมื่อทำ Facebook Marketing เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณ ทีมของเราสามารถจัดตารางการโพสเนื้อหาให้คุณได้อย่างมีกลยุทธ์ผ่านกระบวนการที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และสร้างทัศนคติที่ดีต่อแบรนด์ของคุณ พร้อมทั้งสร้างการเข้าถึงแบรนด์จากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและผู้ใช้งานใหม่ ๆ ให้มากยิ่งขึ้น ในขณะที่รักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเดิมให้ยังคงกระชับแน่นอยู่เสมอ เราใช้กลยุทธ์การจัดตารางการอัพโหลดคอนเทนต์บน Facebook ที่มั่นใจได้ว่าข้อความที่ออกไปใน Online Platform จะได้รับการเผยแพร่ในเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้โพสมีคนเข้าถึงและได้รับความสนใจมากที่สุด รวมถึงมีการตอบสนองผ่านการไลค์และการแชร์เยอะที่สุดเช่นกัน
นอกจาก Facebook จะเป็นแพลตฟอร์มของผู้ใช้ทั่วไปแล้ว ยังเป็นแพลตฟอร์มเพื่อใช้กับธุรกิจของคุณได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากต้องการผลลัพธ์ที่ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้แต่ไม่รู้จักเครื่องมือในการสร้างผลลัพธ์เท่าที่ควร อาจทำให้การสร้างแคมเปญติดขัดหรือเกิดผิดพลาดจนทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นได้ องค์ประกอบบนหน้าของบัญชีส่วนตัวกับบัญชีธุรกิจมีการตั้งค่าและเครื่องมือที่แตกต่างกันพอสมควร เนื่องจาก Facebook มีรูปแบบบัญชี (Facebook Account) ถึง 4 แบบ ซึ่งบางคนอาจจะสับสนว่าทั้ง 4 แบบนี้แตกต่างและมีจุดประสงค์ในการใช้งานอย่างไร
รูปแบบแรกคือ บัญชีส่วนบุคคล (Facebook Profile) หรือที่เรารู้จักกันดีว่า “โปรไฟล์ส่วนตัว” ที่ผู้ใช้งานสร้างขึ้นมาเพื่อใช้แชร์เรื่องราวต่าง ๆ สามารถ Add friend และ Follow บุคคลอื่นๆ ได้ สามารถกำหนดความเป็นส่วนตัวว่าให้ใครมาติดตาม และสามารถกำหนดไม่ให้ใครเห็นบางข้อมูลของเราได้ บัญชีส่วนบุคคลจึงเป็นสังคมออนไลน์เพื่อให้คนที่รู้จักกัน เพื่อน หรือครอบครัวเชื่อมต่อกันบนอินเตอร์เน็ต
รูปแบบที่สองคือ บัญชีสำหรับธุรกิจ (Facebook Fanpage) คือโปรไฟล์สำหรับสร้างตัวตนของธุรกิจหรือแบรนด์บน Social Media ซึ่งเพจของคุณจะเต็มไปด้วยฟังก์ชั่นและเครื่องมือของ Facebook ที่เอื้อต่อการทำธุรกิจเพื่อเพิ่มยอดขายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ เช่น คนที่ซื้อสินค้าและบริการของคุณสามารถจะเช็คอินในบริเวณโลเคชั่นของตัวธุรกิจได้ สามารถรีวิวหรือให้คะแนนความพึงพอใจในเพจเฟสบุ๊คของคุณได้ สำหรับธุรกิจที่มีการขายสินค้าแบบ Retail ก็สามารถสร้างแคตตาล็อกสินค้าเป็นหมวดหมู่ได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ Facebook Fanpage สามารถสร้างแคมเปญโฆษณาเพื่อลงโฆษณาบน Facebook และโปรโมทธุรกิจไปยังกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ เห็นได้ว่าหากคุณต้องการสร้างโปรไฟล์หรือเพจเฟสบุ๊คของธุรกิจ Facebook Fanpage จะมีความเหมาะสมมากกว่าบัญชีส่วนตัว
รูปแบบที่สามจะเรียกว่า Facebook Ads Account หรือ บัญชีสำหรับทำโฆษณา คือส่วนที่จะเอาไว้ใช้สร้างแคมเปญโฆษณาและจัดการทุกอย่างที่เกี่ยวกับการโฆษณาบน Facebook ไม่ว่าจะเป็นการจัดการตัวโฆษณา, การจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย งบประมาณและการชำระเงิน เป็นต้น นอกจากประโยชน์ด้านการจัดการโฆษณาบน facebook ads ได้แล้ว Facebook Ads ยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ด้านการตลาดบนโลกออนไลน์ การตลาด Facebook จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มยอดขายผ่านการเข้าถึงผู้คนในวงกว้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณหรือผู้ใช้งานทั่วไป เป็นเครื่องมือที่เอเจนซี่หรือนักการตลาดใช้งานดูแลจัดการระบบการทำโฆษณาบน Facebook ให้กับแบรนด์หรือลูกค้านั่นเอง
รูปแบบสุดท้ายคือ บัญชีสำหรับจัดการธุรกิจ (Facebook Business Manager) บัญชีนี้เรียกได้ว่าถูกสร้างมาเพื่อช่วยซัพพอร์ตเอเจนซี่ที่ต้องดูแลบัญชีลูกค้าหลายคนให้สามารถที่จะดูแลได้ง่ายและเป็นระบบมากขึ้น ซึ่งเครื่องมือภายในบัญชีนี้ก็จะใช้ในการดูแลจัดการ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Profile, Facebook Fanpage และ Facebook Ads Account อีกชั้นหนึ่งนั่นเอง
แม้ดูเผินๆ เครื่องมือต่าง ๆ ของ Facebook อาจทำให้สับสน แต่ถ้ากำหนดจุดประสงค์และเลือกรูปแบบบัญชีได้อย่างเหมาะสม เครื่องมือที่มีอยู่สามารถสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดที่ตรงกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ UpMedio นอกจากการสร้างแคมเปญโฆษณาและการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจแล้ว อีกหนึ่งกลยุทธ์ของเราคือรูปแบบตัวโฆษณาที่ใช้ในแคมเปญ เพราะในการทำโฆษณา Facebook ตัวโฆษณาของคุณที่สร้างขึ้นในแคมเปญจะถูกส่งออกไปยังช่องทางต่างๆ เช่น หน้าฟีดบนมือถือและเดสก์ท็อป, Facebook Stories, Instagram, Messenger เป็นต้น ซึ่งแต่ละช่องทางก็มีเรื่องของรูปแบบสื่อและขนาดเป็นข้อกำหนดว่าโฆษณาลักษณะใดสามารถไปปรากฎช่องทางใดได้บ้างและแต่ละช่องทางก็มีผลต่อประสิทธิภาพของแคมเปญเช่นกัน
เพราะฉะนั้น การเลือกรูปแบบสื่อ ขนาด และดีไซน์ที่เหมาะสมและน่าดึงดูดในการทำโฆษณาของคุณมีส่วนที่จะช่วยให้แคมเปญโฆษณา Facebook ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นและให้ผลลัพท์ที่ดีที่สุด เช่น การเลือกใช้วิดีโอแนวตั้งหรือสี่เหลี่ยมจตุรัสที่ครอบคลุมหน้าจอได้มากกว่าเนื่องจากผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะใช้มือถือโทรศัพท์ในแนวตั้ง, การใช้ข้อความบนรูปภาพที่ไม่มากจนเกินไปเพราะมีผลให้ Facebook ไม่อนุมัติตัวโฆษณาได้, ข้อความหัวข้อและรายละเอียดที่สั้น กระชับ ชัดเจนจะช่วยดึงความสนใจของลูกค้าที่คุณกำหนดกลุ่มเป้าหมายและให้ผู้ที่พบเห็นเข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อได้ดี, โฆษณาในรูปแบบที่จะช่วยให้ผู้คนเห็นสินค้าได้มากขึ้นโดยใช้งบประมาณต้นทุนเท่าเดิม, การใช้ภาพเคลื่อนไหวจะทำให้โฆษณาโดดเด่นและดึงความสนใจได้นานกว่าภาพนิ่ง และการใช้ปุ่มคำสั่ง (CTR) เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้ทั่วไป คนที่ติดตามธุรกิจคุณหรือแฟนเพจมีส่วนร่วมกับโฆษณา เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า นอกจากองค์ความรู้ทางการตลาดแล้ว การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่คุณกำหนดไว้ต้องมีการทำความเข้าใจตัวเครื่องมือและรายละเอียดไม่น้อย แต่ถ้าได้ปล่อยโฆษณาไปและติดตามผลของแคมเปญก็จะทำให้เห็นพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งสามารถนำผลมาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญต่อ ๆ ไปได้
เราจะทำการติดตามความเคลื่อนไหวของแคมเปญ Facebook Marketing ของลูกค้าตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ทุกสัปดาห์และรายงานความคืบหน้าทุกเดือนเกี่ยวกับบัญชี Facebook ให้ลูกค้าได้ทราบ ในการรายงานประกอบไปด้วยการประเมินผลเพื่อให้กระบวนการและประสิทธิภาพของแคมเปญเป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งนี้การทำโฆษณาบน Facebook จะประสบความสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับอัตรา Cost Per Acquisition บน Facebook ของคุณนั่นเอง หลังจากสิ้นสุดแคมเปญ เรามีบริการและการอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ในองค์กรของคุณเพื่อรับช่วงต่อการดูแลและควบคุมกระบวนการทำ Online Marketing ต่อจากเรา ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราจะให้คำแนะนำกับคุณเกี่ยวกับวิธีการอัพโหลดเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมเพื่อดึงดูดความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากที่สุด คุณยังสามารถตรวจสอบได้ว่าโพสใดที่คุณเผนแพร่ไปแล้วประสบความสำเร็จและได้รับผลตอบรับมากที่สุดในช่วงระหว่างการทำแคมเปญ รวมทั้งแผนการในอนาคตเพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้นและการคงไว้ซึ่งผลลัพธ์เชิงบวกในระหว่างช่วงการทำแคมเปญอีกด้วย
02-566-0491